หน้าเว็บ

ยินดีต้อนรับสู่สัจธรรมที่แท้จริง



ด้วยพระนามของของฮัลลอฮผู้ส่งเมตตา ผู้ส่งกรุณาปราณีเสมอฮัลฮัมดุลิลาฮมวลการสรรเสริญเป็นกรรมสิทธิของฮัลลอฮซุบฮานาฮูวาตาอาลา พระผู้สร้างทุกสรรพสิ่งทุกอย่างแห่งสากลโลก ขอฮัลลอฮส่งประทานความจำเริญ มวลแห่งความดีทั้งหลายให้กับผู้ที่แสวงหาความรู้ความโปรดปรานจากพระองค์

ด้วยพระนามของฮัลลอฮผู้ทรงเมตตา กรุณาปราณีเสมอ

อิสลามกับความจริงที่ต้องรู้

04 พฤศจิกายน 2552

นิกอบหรือบิกีนี่


ใช่คนที่ปิดหน้า จะดีกว่าคนที่เปิดหน้าไม่ ใช่คนที่สวมนิกอบจะดีกว่าคนที่ไม่สวมไม่ และใช่คนที่ไม่สวมใส่คลุมผมจะเท่าเทียมกว่า คนที่สวมบิกีนี่ไม่ แต่หากคนที่มีอีหม่านตักวาศรัทธามากกว่าหรอกนะ ที่เค้าเหล่านั้น จะดีกว่าและประเสริฐกว่า
พี่น้องที่ศรัทธาเอ๋ยจากวิถีการดำเนินชีวิตของสังคมตะวันตกที่ได้ทะลักเข้าสู่สังคมบ้านเราใน ปัจจุบัน จึงส่งผลกระทบต่อจริยธรรมและศีลธรรมอันมีอยู่ในตัวบุคคลหลายๆคนในสังคมเรา ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการแต่งกาย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องวิถีชีวิต มุมมองและความคิดต่างๆก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน สิ่งที่กล่าวมานี้ย่อมหนีไม่พ้นที่จะมีผลกระทบต่อสังคมมุสลิมเราด้วย
บางครั้ง เราเองมักจะตั้งคำถามหรือได้ตั้งมาตรฐานของความคิด มุมมองและการแสดงออกถึงความเป็นมุสลิมต่อพี่น้องเราในบางเรื่อง บางเหตุการณ์ในทางลบ แต่ในทางกลับกันการแสดงออกถึงความญาฮีลียะห์ ของคนในบ้านเราเมืองเราในทุกวันนี้ เรากลับแสดงออกถึงความรัก ชื่นชม และเยินยอ แล้วนำมาซึ่งการเลียนแบบ และติชมกันมากมาย ว่านั่นคือสิ่งที่สวยงาม ว่านั่นคือสิ่งที่ดีควรที่จะเป็นแบบอย่างหรือเลียนแบบ อันเนื่องจากมันเป็นแฟชั่นของวัยรุ่นสมัยใหม่นั่นเอง ท้ายที่สุดแล้วมุสลิมเราก็ไม่น้อยหน้า เพราะมุสลิมจะล้าสมัยไม่ได้ ก็เอากับเค้าด้วย แต่ในความเป็นจริงการแต่งกายของพวกเค้าเหล่านั้นมันคงไม่ต่างอะไรมากนัก หากเราจะเรียกมันว่า นั่นก็คือ ชุดบิกีนี่ตัวหนึ่งนั่นเอง!!!!
น่าแปลกไหม ว่าวันนี้ !!! ทำไม ทำไมต้องสวมนิกอบด้วย ทำไมต้องปิดหน้าด้วย ทำไมอย่างนั้น ทำไมอย่างนี้ ก็ในเมื่อเปิดหน้ามันไม่ผิดนะ แล้วจะปิดให้ร้อนกันทำไม เวลาพูดคุยก็ลำบากนะ ไม่เห็นปากขยุบขยิบ ลำบากนะ ลำบาก และอีกสารพัด คำถามและข้อสงสัยกับเพียงแค่คำว่า “นิกอบ”หรือ “ปิดหน้า”แปลกใจไหม ว่าทำไม ทำไมและทำไม กับแค่คำไม่กี่คำจึงถูกตั้งด้วยกับพี่น้องเราเสียเองครับ หรือเพราะเราอ่อนแอ หรือเพราะเราอ่อนความรู้ หรือเพราะเราขาดซึ่งการเรียนรู้และตระหนักของ นิยาม กับคำเหล่านี้ครับ แต่ไม่ ไม่ครับหรือเพราะมุสลิมเราถูกสังคมตะวันตกกลืนเข้าไปแล้วครับ .....พี่น้อง
พี่น้องครับ เมื่อคนสวมนิกอบหรือคลุมหน้า กลับถูกมองว่าเป็นกลุ่มคนที่สุดโต่งหรือคนเคร่ง และเมื่อการสวมคลุมผมนั้น กลับถูกมองว่าไม่เรียบร้อยและเป็นการลดเกียรติ แล้วอย่างนี้เราในฐานะที่เป็นผู้ศรัทธา เรามีทัศนะคติกับเรื่องข้างต้นนี้อย่างไร หรือก็จริงตามที่เขาว่า หรือก็ถูกตามที่เขามอง แล้วอย่างไรเล่าคือมาตรฐานที่อิสลามให้เรามองครับ
ทำไมหนอ!!!การแต่งกายที่เผยซึ่งสัดส่วนอันเพียงนิดเพียงน้อย จนแทบจะเปรียบกับชุดบิกีนี่ตัวหนึ่งของหญิงสาวเราในสังคมดารา นักร้อง นักแสดง หรือแม้กระทั้ง ในสังคมหญิงสาวมุสลิมเรา เรากลับนิ่งเฉย ดูดาย ชื่นชม และเป็นที่รักของเรา ทั้งกับการเสียสละเวลาเพื่อการนั่งชม หรือการสนับสนุนเห็นด้วย ถึงขนาดนั้นครับ แต่เมื่อเราได้รับรู้ถึงมุสลีมะห์เราบางคนที่หันมาตระหนักถึงฟิตนะฮ ที่อาจจะเกิดขึ้นกับตน จนพัฒนาการมาถึงการคลุมหน้า สวมนิกอบ เราแทบจะรับไม่ได้และมองถึงกลุ่มคนเหล่านี้กันอย่างผิดๆถูกๆ หรืออย่างมีใจเป็นอคติกันหล่ะครับ
เรามิได้บอกว่า คนปิดหน้าจะดีกว่าคนเปิดหน้าครับ และเราไม่ได้บอกว่าคนที่สวมนิกอบนั้นจะประเสริฐกว่าคนที่เปิดหน้าในส่วนของ มุมมองในทางสังคม ดั่งที่ใครๆมักจะมองถึงการกระทำของผู้ที่ปิดหน้าในบางเรื่อง บางประการ ซึ่งเป็นเรื่องของความเป็นส่วนตัวที่แสดงออกมาไปในทำนองที่ทำให้พี่น้องเรา เข้าใจว่า สังคมระหว่างพี่น้องที่ปิดหน้ากับไม่ปิดหน้า ย่อมมีมาตรฐานที่แตกต่างกันไปแล้วหรือ หรือเรียกง่ายๆว่า มีสองมาตรฐานนั่นเอง สิ่งดังกล่าวนี้ ย่อมไม่ใช่เป้าหมายของผู้ที่ปิดหน้าของเราส่วนใหญ่เป็นแน่ ที่เค้าแสดงออกถึงสิ่งเหล่านั้นครับ..พี่น้อง แต่เราเพียงจะบอกพี่น้องว่า คนที่สวมคลุมผมหรือปิดหน้าจะเท่าเทียมกว่าคนที่ไม่สวมคลุมผมหรือ!!และเรา เพียงอยากบอกพี่น้องว่า ทำไมเราไม่เรียกร้องให้มีการปกป้องเกียรติของความเป็นมุสลิมะห์กันมากกว่า นี้กันเล่า!!!
มาซิครับ เรามาปรับซึ่งมุมมอง เรามาร่วม เรามาแสดงออกถึงจุดยืน จุดต่าง และจุดร่วมในความเห็น ความมีเกียรติกับสิ่งเหล่านี้กันดีกว่าไหม เรามาพัฒนาการถึงการแต่งตัวของเราในทุกวันนี้กันดีกว่าไหม
จากที่ฉันเพียงแค่คลุมผม แต่ยังใส่เสื้อฟิตๆ เรามาใส่เสื้อหลวมๆกันไหม
จากที่ฉันเพียงแค่คลุมผม แต่ยังเปิดเอาเราะห์ในส่วนเท้า เรามาใส่ถุงเท้ากันไหม
จากที่ฉันเพียงแค่คลุมผม แต่ยังเปิดเอาเราะห์ในส่วนแขน เรามาใส่ปลอกแขนกันดีกว่าไหม
จากที่ฉัน เพียงแค่ใส่คลุมหน้าแต่ยังเผยซี่งเอาเราะห์ในส่วนแขน เรามาใส่ปลอกแขนกันดีกว่าไหมและจากที่ฉันเพียงแค่คลุมหน้าและสวมนิกอบกัน เรามาคลุมทั้งกายและใจกันดีกว่าไหม เรามาศัลยกรรมอีหม่านและการวางตัวกันดี กว่าไหมครับ
ใช่!!!!เรามักจะอ้างว่า เรายังไม่พร้อมหรอกที่เราจะปิดหน้า เรายังไม่พร้อมหรอกที่จะสวมใส่ปิดกั้นถึงขนาดนั้น แต่เราจะอ้างกันอีกนานเท่าไหร่กันครับ ว่าเรายังไม่พร้อมที่จะคลุมผมกัน เรายังไม่พร้อมหรอกที่จะสวมใส่แบบหลวมๆๆและไม่เปิดเผยซึ่งสัดส่วนกัน เมื่อไหร่จะพร้อม เมื่อไหร่จะเปลี่ยนกัน จะรออะไรกันอีกเล่า หรืออุปสรรคบางประการของเรามันคือสิ่งสำคัญที่เราไม่คิดและจะทบทวนว่า สิ่งที่เราสวมอยู่กันในวันนี้ คือสิ่งที่อัลลอฮ(ซ.บ)ทรงกริ้วโกรธเพราะเราฝ่าฝืนคำสั่งใช้พระองค์อยู่ครับ
น่าเห็นใจนะหากเค้าเหล่านั้น ต้องเจอะเจออุปสรรคสารพัด หากการที่เค้าจะคิดยืนหยัดและเปลี่ยนแปลง แต่หากเค้าเหล่านั้นมองข้ามอุปสรรคบางอย่างนั้นไป เค้าเหล่านั้นจะทราบว่า แท้ที่จริงแล้ว อุปสรรคที่เกิดขึ้น มันคือสิ่งทดสอบถึงการที่เค้าจะคิดยืนหยัดในหลักการของอัลลอฮ(ซ.บ)ต่างหาก หล่ะ
เอาหล่ะ ท่านจะสวมนิกอบ หรือท่านจะสวมบิกีนี่ ก็จงเลือกดูนะ แต่ท่านจงรับรู้ไว้เถิดว่า การสวมของท่าน คืออีหม่านของท่าน และอีหม่านของท่านคือความตักวาของท่าน และความตักวานี้หล่ะนะคือสิ่งที่ติดตัวท่านไปยังพระองค์อัลลอฮ(ซ.บ)ครับ... อินชาอัลลอฮ
และจงอยู่ในบ้านเรือนของพวกเธอและอย่าได้โอ้อวดความงาม (ของพวกเธอ) เช่น การอวดความงาม (ของพวกสตรี) แห่งสมัยงมงายในยุคก่อน และจงดำรงการละหมาดและจ่ายซะกาต และจงภักดีต่ออัลลอฮฺและร่อซูลของพระองค์...[อัลอะหฺซาบ :33]
والسلام عليكم ورحمة الله وبركاته

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

(ขอบคุณ)